คำว่า "กุมภวาปี" ได้ตั้งให้สอดคล้องกับความหมาย ซึ่งคำว่า “กุมภะ” แปลว่า หม้อ “วาปี” แปลว่า หนองหรือบึง จึงรวมกันเป็น "กุมภวาปี" นามนี้ จึงปรากฏหลักฐานตั้งแต่ในรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา
ประวัติความเป็นมา
เมืองกุมภวาปี มีชื่อปรากฏในวรรณกรรมท้องถิ่นอีสานเรื่องผาแดงนางไอ่ ในนาม เมืองเอกชะทีตาหรือทีตานคร
อันถือเป็นเวรกรรมที่เป็นต้นเค้าของปรากฏชื่อบ้านนามเมืองที่เกี่ยวข้องในบริเวณหนองหานน้อยและลุ่มน้ำชีตอนบน
ความในวรรณกรรมท้องถิ่น เรื่องผาแดงนางไอ่
นั้นกล่าวว่าเมืองทีตานครเป็นเมืองใหญ่ตั้งอยู่ที่ราบลุ่มอันอุดมสมบูรณ์เจ้าผู้ครองเมืองชื่อพญาขอม
มีธิดาชื่อว่า ไอ่คำ เมื่อนางไอ่คำเจริญวัยได้มีเจ้าชายจากเมืองผาโพงชื่อ ท้าวผาแดง ได้มาติดพันเกี้ยวพาราสีหวังได้เป็นคู่ครอง
กาลต่อมาพญาขอมได้จัดงานบุญบั้งไฟของเมืองทีตานครนี้ได้ล่วงรู้ไปถึงเมืองบาดาลเขตแดนของพญานาคทำให้ท้าวพังคี
โอรสของพญานาคปลอมตัวมาเป็นกระรอกเผือกขึ้นมาเที่ยวชมงานพร้อมกับบริวาร
ท้าวพังคีในร่างกระรอกเผือกได้แอบยลโฉมนางไอ่คำทางช่องหน้าต่าง
เมื่อนางไอ่คำเห็นเข้าก็ปรารถนาอยากได้กระรอกเผือกไว้เชยชม
จึงให้อำมาตย์ตามจับแต่ก็จับไม่ได้
ในที่สุดนายพรานประจำเมืองก็ใช้หน้าไม้ยิงกระรอกเผือกตายแล้วก็ชำแหละเนื้อกระรอกนำมาแบ่งปันประกอบอาหารกิน
ด้วยแรงอธิษฐานของพังคีก่อนตายทำให้เนื้อกระรอกเผือกเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมากมายกินกันทั่วเมืองก็ไม่หมดและขอให้คนที่ได้กินเนื้อจงตายตามไปด้วย เมื่อท้าวพังคีตาย บริวารได้กลับไปบอกพญานาคบิดาของพังคี
ทำให้พญานาคโกรธมากจึงสำแดงอิทธิฤทธิ์ทำให้เมืองทีตานครของพญาขอมถล่มจมดินกลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ซึ่งก็คือ
หนองหานกุมภวาปีในปัจจุบัน
ส่วนชาวเมืองที่กินเนื้อกระรอกเผือกก็ล้วนตายกันหมดรวมทั้งท้าวผาแดงและนางไอ่คำด้วย
ยกเว้นบรรดาแม่หม้ายที่ไม่ได้รับแบ่งเนื้อกระรอกเผือกมากิน
ทำให้บ้านเมืองของเขาไม่ถูกทำลายจึงเหลือเป็นเกาะกลางหนองหานที่เรียกกันว่า
บ้านดอนแก้ว ในปัจจุบัน
ตำบลเวียงคำ
แบ่งเขตการปกครอง เป็น 16 หมู่บ้าน
ประกอบด้วยหมู่บ้าน หมู่1 บ้านนาแบก
, หมู่2 บ้านท่าหนองเทา
, หมู่3 บ้านท่าม่วง
, หมู่4 บ้านเวียงคำ
, หมู่5 บ้านสวนมอญ
, หมู่6 บ้านหินฮาว
, หมู่7 บ้านคำไผ่
, หมู่8 บ้านโนนเห็น
, หมู่9 บ้านโนนสมบูรณ์
, หมู่10 บ้านคำเลา
, หมู่11 บ้านวังชัย
, หมู่12 บ้านท่าม่วงน้อย
, หมู่13 บ้านสวนมอญใต้
, หมู่14 บ้านนาแบกน้อย
, หมู่15 บ้านโป่งคอม
, หมู่16 บ้านโนนงาม
มีโอกาศได้มาเที่ยว อ.กุมภวาปี บรรยากาศตอนเช้า อากาศสดชื่นมาก สูดหายใจได้เต็มปอด......รายล้อมไปด้วยไร่มันสำปะหลัง และไร่อ้อย ช่วงนี้เป็นฤดูฝนเลยไม่ค่อยจะร้อนเท่าไหร่ ที่น่าแปลกคือ 05.30 น. ฟ้าสว่างจ้าแล้ว ที่ระนองบ้านผม 06.30 น. ยังมืดอยู่ มิน่าล่ะคนที่นี่ถึงตื่นแต่เช้ากัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น